วันที่ 6 มกราคม 2563 ร้านเกษตรไบโอได้มาบริจาคเครื่องทำน้ำร้อน-เย็น และรถเข็นนั่งผู้ป่วย รวมมูลค่า 10,000 บาท ให้แก่โรงพยาบาลแหลมงอบ
สถาบันอาหารได้สุ่มตัวอย่างข้าวหน้าเป็ดจำนวน 5 ตัวอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์ เชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ปนเปื้อน ผลปรากฏว่าพบการปนเปื้อนของเชื้อ 1 ตัวอย่าง และเกินค่ามาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่กำหนดให้อาหารพร้อมบริโภค/อาหารปรุงสุกทั่วไป พบเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ปนเปื้อนได้ไม่เกิน 100 ซีเอฟยู/กรัม “ข้าวหน้าเป็ด” อาหารจานเดียวในใจใครหลายคน ปัจจุบันมีขายตามตรอก ซอกซอย จนถึงห้างหรูมีระดับ แตกต่างกันที่น้ำราดเป็ด และเนื้อเป็ดที่มีความนุ่มต่างกันตามสูตร ‘สแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส’ เชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษ thaihealth และอีกสิ่งที่จะขาดไม่ได้คือ น้ำจิ้ม ตัวช่วยเพิ่มรสชาติของข้าวหน้าเป็ดให้น่ารับประทานยิ่งขึ้น ดูๆแล้วก็ไม่น่ามีอันตรายอะไร เพราะทุกอย่างปรุงสุกแล้ว แต่หากสุกแบบทิ้งไว้นาน ไม่ได้ทานในทันที ตรงนี้ก็อาจมีอันตรายแอบแฝงอยู่ได้ อันตรายที่ว่าคือ เจ้าเชื้อสแตปฟิโลคอคคัส ออเรียส (Staphylococcus Aureus) ที่เมื่อปนเปื้อน อยู่ในอาหารแล้วสามารถสร้าง สารพิษเอนเทอโรทอกซิน ที่มีสมบัติพิเศษ คือ ทนความร้อน อันตรายของมันคือ ทำให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน วิงเวียน เป็นตะคริวในช่องท้องและอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ เป็นตะคริวที่กล้ามเนื้อ และมีการเปลี่ยนแปลงความดันโลหิตเป็นระยะๆ โดยทั่วไปอาการจะดีขึ้นภายใน 2-3 วัน ขึ้นอยู่กับปริมาณของเชื้อที่ปนเปื้อนในอาหาร และปริมาณสารพิษที่สร้างขึ้นในอาหาร ความต้านทานสารพิษและสภาพของร่างกายทั่วไปของผู้ที่ได้รับเชื้อด้วย อันตรายจากเชื้อก่อโรคจะยังคุกคามผู้บริโภคอย่างเราอย่างต่อเนื่อง หากเราไม่ตระหนัก และใส่ใจในเรื่องของการทานอาหารที่สะอาด ปลอดภัย และผ่านขั้นตอนการปรุงอย่างถูกสุขลักษณะ เช่น ผู้ปรุงต้องมีเครื่องแต่งกายที่สะอาด เล็บมือตัดสั้นอยู่เสมอ มีการสวมถุงมือเวลาหยิบจับอาหารตลอดเวลา บริเวณหน้าร้านและในร้านต้องสะอาด ภาชนะ จาน ช้อน ส้อมและอุปกรณ์ที่ใช้ต้องล้างให้สะอาด