คอเลสเตอรอลเป็นไขมันที่พบได้ในเลือด ซึ่งมีแหล่งที่มา 2 ที่ คือ ภายในร่างกายคนสามารถสังเคราะห์ได้ที่ตับ และ ภายนอก จากอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน เช่น ไข่แดง เนื้อสัตว์ นมสัตว์ เนย ถ้ามีคอเลสตอรอลในเลือดสูง จะไปเกาะที่ผนังหลอดเลือดมีลักษณะเป็นตะกรัน (plaque) ทำให้ผนังหลอดเลือดมีการอักเสบและทำให้เกิดภาวะหลอดเลือดแดงแข็ง เมื่อมีการสะสมเพิ่มมากขึ้นจะทำให้หลอดเลือดมีการตีบ เช่น หลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง ทำให้เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและกล้ามเนื้อหัวใจตาย ทำให้เสียชีวิตได้
ชนิดของไขมันในเลือดมี 4 ชนิด
คลอเลสตอรอล (Total Cholesterol) เป็นสารประเภทไขมัน ร่างกายสามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ ปกติค่าโคเลสเตอรอลในเลือดไม่ควรเกิน 200 มิลลิกรัมต่อเลือด 1 เดซิลิตร ถ้ามีมากเกินไปจะก่อให้เกิดภาวะเส้นเลือดแข็งตัวและตีบตัน
ไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) เป็นไขมันที่ร่างกายสังเคราะห์ขึ้นจากตับและลำไส้เล็ก และจากอาหาร สาเหตุของไตรกลีเซอไรด์สูง มาจากการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือขนมหวานในปริมาณมาก จากโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคไต เกิดจากกรรมพันธุ์ ดื่มสุราเป็นประจำ การขาดการออกกำลังกาย ระดับไตรกลีเซอไรด์ที่เหมาะสมคือ ไม่ควรเกิน 150 mg/ดล
เอชดีแอล คอลเลสเตอรอล (HDL-C) ไขมันในเลือดชนิดดี ช่วยลดการตีบตันของหลอดเลือด สร้างขึ้นได้เองที่ตับและลำไส้เล็ก ไขมันชนิดนี้สามารถเพิ่มระดับได้ โดยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการงดสูบบุหรี่ ค่า HDL ควรมากกว่า 60 มก/ดล
แอลดีแอล คลอเลสเตอรอล (LDL-C) ไขมันชนิดร้าย ถ้า LDLมากเกินไปจะไปเกาะอยู่ตามผนังหลอดเลือดและพอกพูนจนทำให้เหลอดเลือดแดงแคบลง ค่าปกติ 130 – 160 มก/ดล และผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรให้ต่ำกว่า 100 มก/ดล
ผู้ที่ควรตรวจวัดระดับไขมันในเลือดได้แก่
o ชายอายุ 45 ปีขึ้นไป หญิงอายุ 55 ปีขึ้นไป
o มีประวัติครอบครัว คือ พี่ น้อง เป็นโรคหัวใจขาดเลือด
o ความดันโลหิต เท่ากับหรือมากกว่า 140/90 มม. ปรอท
o โรคเบาหวาน
o สูบบุหรี่
o มีภาวะอ้วนลงพุง
o ผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด เช่น โรคหัวใจขาดเลือด อัมพาต อัมพฤกษ์
วิธีการควบคุมระดับไขมัน
o ควบคุมอาหาร เลือกใช้น้ำมันพืชปรุงอาหาร เลือกปรุงอาหารด้วยวิธีนึ่ง
o ควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้อ้วนลงพุง เช่น รอบเอวมากกว่า 36 นิ้ว ในผู้ชาย 32 นิ้วในผู้หญิง
o การออกกำลังกายอย่างเหมาะสม
o รับประทานยาอย่างสม่ำเสมอ ในรายที่ระดับไขมันสูงมาก
o รักษาโรคประจำตัวที่มีปัญหาไขมันสูงและโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะหลอดเลือดแข็ง เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง
แหล่งข้อมูล : สถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์
|